ข้อควรพิจารณาในการทำประกันสุขภาพ

ก่อนจะทำประกันสุขภาพ อยากจะฝากหลักคิด หรือเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ในการทำประกันสุขภาพไว้ให้พิจารณาดังนี้

ควรทำให้ครอบคลุม ทั้งค่าห้อง (ควรเป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล) อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง (ไว้กรณีทุพพลภาพ)

ควรพิจารณาศักยภาพในการจ่ายเบี้ย ไม่ควรเกิน 10-15% ของรายได้รวมทั้งปี

วางแผนจ่ายเบี้ยประกันให้ดีด้วยการวางแผนวิเคราะห์กระแสเงินสดล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่ายังมีศักยภาพในการจ่ายเบี้ยประกันที่สูงขึ้นได้

หากไม่ไหว อาจจะต้องแบ่งเงินอีกส่วนไว้ลงทุนควบคู่ไปกับการทำประกันสุขภาพ เพื่อที่วันหนึ่งจะได้มีเงินทุนอีกก้อนมาช่วยจ่ายค่าเบี้ยประกันตอนอายุมากๆ

หากเป็นไปได้ ควรทำประกันสุขภาพให้ครอบคลุมทั้งเรื่องค่ารักษาตัวในโรงพยาบาล (HS) ไว้สำหรับกรณีเจ็บป่วยทั่วไป รวมถึงเรื่องอุบัติเหตุ ( AR) และโรคร้ายแรง (CRหรือ CI) ไว้ด้วย เพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณีทุพพลภาพ (ซึ่งอาจจะเกิดได้จากทั้งกรณีอุบัติเหตุ ทำให้เราพิการ หรือจากโรคร้ายแรง เช่นหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เป็นเจ้าชายนิทรา ทำให้เรายังมีชีวิตอยู่ต่อไป โดยที่ความสามารถในการหารายได้ลดลง หรือหาไม่ได้เลย และอาจจะมีค่ารักษาตัวอย่างต่อเนื่องร่วมด้วย) จะได้ครอบคลุมความเสี่ยงเรื่องสุขภาพได้ทั้งหมดครับ
เบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสม ควรจะอยู่ในระดับที่เราจ่ายไหว เหมาะสมกับรายรับของเรา ไม่มากไป หรือน้อยเกินไป เพื่อให้เราสามารถจ่ายเบี้ยคุ้มครองได้อย่างยั่งยืน (ไม่ใช่ทำไปไม่นานก็รู้สึกว่าจ่ายไม่ไหวจนต้องยกเลิก) ซึ่งไม่ควรจะเกินประมาณ 10-15% ของรายได้รวมทั้งปีของเราครับ (เช่น เงินเดือนเราเดือนละ 50,000 หรือปีละ 600,000 ก็ควรจะจ่ายเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 60,000-90,000 บาทต่อปี) มีเงินน้อย ก็ทำแต่น้อยก่อน เมื่อรายได้เพิ่มขึ้นแล้ว ก็ค่อยทำเพิ่มขึ้นครับ 🙂
ควรวางแผนจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพให้ดี เพราะประกันสุขภาพบางตัวเบี้ยจะแพงขึ้นเรื่อยๆตามอายุ ดังนั้นถ้าจะให้ดีก็ควรวางแผนวิเคราะห์กระแสเงินสดรายรับรายจ่ายล่วงหน้าหลายๆปี เพื่อให้แน่ใจว่า ในอนาคตเรายังจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไหว (ดังน้นเราควรขอตารางค่าเบี้ยประกันสุขภาพ จากตัวแทนที่เราทำประกันด้วย เพื่อดูค่าเบี้ยประกันในการใช้วางแผนล่วงหน้าครับ)

จากข้อข้างบน ถ้าเรามองว่า เรายังอยากมีประกันสุขภาพตอนอายุมากๆ แต่คิดว่าจ่ายเบี้ยเองไม่ไหว เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการวางแผนการลงทุนควบคู่ไปกับการทำประกันสุขภาพในปัจจุบันครับ ซึ่งจุดประสงค์ของการลงทุน ก็เพื่อสร้างกองทุนค่ารักษาพยาบาลตอนเราอายุมากๆ โดยให้เราถอนเงินจากพอร์ตการลงทุนนี้ของเรา มาจ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันให้แทน (ใช้ทั้งเงินลงทุน และผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว มาช่วยจ่ายค่าเบี้ยประกันให้ ทำให้ภาระในการจ่ายค่าเบี้ยประกันของเราลดลง)